อัปเดตเครื่องมือจัดการโฆษณา : ประกาศใช้งานโฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็ม

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาแบรนด์ รวมถึงเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าและอัตราคอนเวอร์ชั่นของแบรนด์ ทีมงานได้ทำการปรับปรุงโฆษณาแบรนด์จากรุ่น Beta เป็นเวอร์ชั่นเต็มและพร้อมใช้งานแล้วตั้งแต่วันนี้

 

เนื้อหาหลัก :

• ทีมโฆษณาได้ปรับโมเดลและอัปเดตฟังก์ชั่นการใช้งานใดบ้าง?
• โฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็มเริ่มใช้งานเมื่อไหร่?
• โฆษณาแบรนด์ของคุณจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหลังจากนี้?
• คำถามและรายละเอียดอื่นๆ 

 

ทีมโฆษณาได้ปรับโมเดลและอัปเดตฟังก์ชั่นการใช้งานใดบ้าง?

จากข้อมูลวิเคราะห์โฆษณา วัตถุประสงค์หลักของการปรับปรุงโฆษณาแบรนด์คือ เพื่อให้แบรนด์ของดีไซเนอร์สามารถลงโฆษณาในงบประมาณที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด คือ 

1. สามารถเข้าถึงทุกตำแหน่งโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Pinkoi 
2. สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการและลูกค้าที่มีศักยภาพในการซื้อสูง รวมถึงเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าคลิกเข้าเยี่ยมชมสตูดิโอมากยิ่งขึ้น 

 

ดังนั้น ทีมโฆษณาจึงได้ทำการปรับระบบการแสดงผลและโมเดลการคิดค่าโฆษณาแบรนด์ใหม่ ดังนี้：

 

1. ปรับระบบ Keyword Matching ของตำแหน่งโฆษณาในหน้าผลการค้นหา จากการทำงานแบบแสดงผลเมื่อคำค้นหา“ตรงทั้งหมด” เป็นแสดงผลเมื่อคำค้นหามี“คำ/วลีคล้ายกัน”

โฆษณาแบรนด์ในเวอร์ชั่นเบต้าจะ“แสดงผลเมื่อคำค้นหาตรงกับคีย์เวิร์ดทั้งหมด” ซึ่งหมายความว่าโฆษณาจะแสดงผลก็ต่อเมื่อคำค้นหาที่ผู้ใช้ค้นหาต้องตรงกับคีย์เวิร์ดของสตูดิโอดีไซเนอร์ตั้งไว้ทั้งหมดเท่านั้น 

เพื่อให้แบรนด์สามารถแสดงโฆษณาในการค้นหาของผู้ใช้ได้อย่างครอบคลุม ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและอยู่ในตำแหน่งโฆษณาที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้นโฆษณาแบรนด์ในเวอร์ชั่นเต็มจะถูกปรับให้เป็น“แสดงผลโฆษณาเมื่อคำค้นหามีคำ/วลีคล้ายกัน” กล่าวคือ ระบบจะแสดงโฆษณาทันทีเมื่อคำค้นหาที่ผู้ใช้ค้นหาใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดที่ดีไซเนอร์ตั้งไว้    

 

 

2. ระบบจะจับคู่คำค้นหาของผู้ใช้กับชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า และแท็กสินค้า แล้วแสดงผลในหน้าผลการค้นหาโดยอัตโนมัติ 

นอกจากจะปรับการแสดงโฆษณาเป็นการทำงานแบบแสดงผลเมื่อคำค้นหามีคำหรือวลีคล้ายกันแล้ว โฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็มยังสามารถจับคู่คำค้นหาที่ผู้ใช้ค้นหาโดยอัตโนมัติ กล่าวคือ ระบบจะแสดงโฆษณาแบรนด์ทันทีเมื่อคำค้นหาของผู้ใช้มีชื่อแบรนด์ แท็กสินค้า หรือชื่อสินค้า 3 รายการแรกของโฆษณาแบรนด์ 

 

หลังจากนี้ดีไซเนอร์ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าคีย์เวิร์ดให้กับชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า และแท็กสินค้าข้างต้นต่างหาก เพิ่มโอกาสให้คีย์เวิร์ดถูกจับคู่และแสดงผลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าและประสิทธิภาพของโฆษณาแบรนด์ในหน้าผลการค้นหา

 

 

3. ปรับโมเดลการคิดค่าโฆษณาใหม่จาก“คิดค่าโฆษณาต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง(CMP)” เป็น“คิดค่าโฆษณาต่อการคลิก 1 ครั้ง(CPC)”

 

โฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเบต้าคิดค่าโฆษณาเมื่อมีการแสดงผล 1,000 ครั้ง(CMP) ซึ่งหมายความว่าจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกครั้งที่โฆษณาของคุณปรากฏบนหน้าเพจ 

 

จากการปรับโมเดลการแสดงผลของการจับคู่คำค้นหาข้างต้น มีโอกาสทำให้สตูดิโอของคุณมีจำนวนอิมเพรสชั่นเพิ่มมากขึ้น หากยังคงรูปแบบการคิดโฆษณาต่อการแสดงผล 1,000 ครั้งแบบเดิม ค่าโฆษณาแบรนด์ของคุณก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย 

 

ดังนั้นโฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็มจึงต้องปรับการคิดค่าโฆษณาเป็น“คิดค่าโฆษณาต่อการคลิก 1 ครั้ง(CPC)” โดยจะเกิดค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดจำนวนคลิก กล่าวคือ ระบบจะคิดค่าโฆษณาเมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณาของคุณแล้วลิงก์ไปยังหน้าเพจสินค้าหน้าหรือหน้าสตูดิโอ เพื่อให้คุณสามารถลงโฆษณาได้อย่างสบายใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสและศักยภาพสูงที่จะซื้อสินค้าของคุณ

 

 

4. โฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นใหม่ให้คุณได้ยอดผู้ติดตามสตูดิโอเพิ่มฟรีๆ แบบไม่เสียค่าโฆษณา

 

โฆษณาแบรนด์จะเกิดค่าใช้จ่ายเมื่อผู้ใช้คลิกเข้าชมโฆษณาเท่านั้น หมายความว่า ระบบจะไม่คิดค่าโฆษณาหากผู้ใช้ติดตามสตูดิโอของคุณด้วยการ“กดปุ่มไอคอนรูปหัวใจ” โดยตรงโดยไม่ได้คลิกเข้าเยี่ยมชมสตูดิโอหรือหน้าเพจโฆษณาที่กำหนด เท่ากับว่าคุณจะได้อิมเพรสชั่นโฆษณาฟรี และอาจมียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นโดยไม่เสียค่าโฆษณา

 

 

โฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็มเริ่มใช้งานเมื่อไหร่?

โฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็มจะสามารถใช้งานได้อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป 

 

โฆษณาแบรนด์ของคุณจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหลังจากนี้?

1. โฆษณาแบรนด์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่

(1) สถานะโฆษณา : คงสถานะ“ใช้งานโฆษณาอยู่” รวมถึงกลุ่มเป้าหมายและตำแหน่งโฆษณาที่คุณเคยตั้งค่าไว้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

(2) ราคาเสนอต่อคลิก : ปรับราคาเสนอต่อคลิกให้เป็นราคาเสนอที่ระบบแนะนำ(6 บาท) อัตโนมัติ คุณสามารถเข้าไปแก้ไขราคาเสนอใหม่ได้ที่ระบบหลังบ้าน

(3) ระบบการประมูลตำแหน่งโฆษณา : 

(3.1) เปลี่ยนวิธีการคำนวณคะแนนรวมของโฆษณาเป็น“ราคาเสนอต่อคลิก” และพิจารณาลำดับโฆษณาจากคะแนนรวมโฆษณา

(3.2) คำแนนรวมของโฆษณา = ราคาเสนอต่อคลิกที่ตั้งค่า X คะแนนรวมของสตูดิโอ

(3.3) ระบบจะคำนวณค่าใช้จ่ายโดยอ้างอิงจากราคาประมูลของอันดับสูงสุดของตำแหน่งโฆษณา ณ ขณะนั้นกับคะแนนรวมสตูดิโอ

(3.4) ค่าใช้จ่ายจริงของราคาเสนอต่อคลิกจะ“น้อยกว่าหรือเท่ากับ” ราคาเสนอที่ดีไซเนอร์กำหนด

(4) ระบบการแสดงผลของตำแหน่งโฆษณา : 

(4.1) แสดงโฆษณาแบบเฉพาะบุคคล(Personalization) ในหน้าหลัก 

(4.2) ระบบจะแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้จากพฤติกรรมและความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน โดยวิเคราะห์และคำนวณจากข้อมูลสถิติทั้งหมดของผู้ใช้ เพื่อให้โฆษณาแสดงต่อผู้ใช้ที่มีความสนใจและตั้งใจซื้อสินค้าอย่างแม่นยำ      

(4.3)“คีย์เวิร์ดโฆษณา” ในหน้าผลการค้นหา : 

คีย์เวิร์ดโฆษณาแบบใดที่จะทำให้โฆษณามีโอกาสแสดงในหน้าผลการค้นหา？ 

• โฆษณาจะมีโอกาสแสดงผลในหน้าผลการค้นหานั้น เมื่อคำค้นหาที่ผู้ใช้ค้นหามีคำ/วลีของคีย์เวิร์ดของแบรนด์ที่ดีไซเนอร์ได้กำหนดไว้อยู่แล้ว 

• โฆษณาจะมีโอกาสแสดงผลในหน้าผลการค้นหานั้น เมื่อคำค้นหาที่ผู้ใช้ค้นหามีคำ/วลีของคีย์เวิร์ดของ“แท็กสินค้า” หรือ”ชื่อสินค้า 3 รายการแรกของโฆษณาแบรนด์”

• โฆษณาจะมีโอกาสแสดงผลในหน้าผลการค้นหานั้น เมื่อคำค้นหาที่ผู้ใช้ค้นหามีคำ/วลีของคีย์เวิร์ดของ“ชื่อแบรนด์”

2. โฆษณาแบรนด์เปิดการใช้งานอยู่

(1) สถานะโฆษณา : คงสถานะ“ปิดใช้งานโฆษณา” รวมถึงกลุ่มเป้าหมายและตำแหน่งโฆษณาที่คุณเคยตั้งค่าไว้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

(2) ราคาเสนอต่อคลิก : ปรับราคาเสนอต่อคลิกให้เป็นราคาเสนอที่ระบบแนะนำ(6 บาท) โดอัตโนมัติ คุณสามารถเข้าไปแก้ไขราคาเสนอใหม่ได้ที่ระบบหลังบ้าน

(3) หากดีไซเนอร์กลับมาเปิดใช้งานโฆษณาอีกครั้ง ระบบการประมูลตำแหน่งโฆษณาจะเหมือนกันกับโฆษณาแบรนด์ที่อยู่ในสถานะ“เปิดใช้งานโฆษณาอยู่” ข้างต้น

 

 

คำถามและรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม 

1. ก่อนที่โฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็มจะเปิดให้ใช้ได้อย่างเป็นทางการ ฉันต้องทำการแก้ไขหรือปิดโฆษณาที่กำลังเปิดใช้งานอยู่ไหม?

ดีไซเนอร์ไม่จำเป็นต้องเข้าไปปิดโฆษณาหรือทำการแก้ไขใดๆ กับโฆษณาที่กำลังเปิดใช้งานอยู่ ทีมวิศวกรจะทำการย้ายโฆษณาแบรนด์ของคุณ(ทั้งที่กำลังเปิดใช้งานโฆษณาอยู่และปิดใช้งานไปแล้ว) ไปยังระบบใหม่ทั้งหมด   

 

2. เครื่องมือจัดการโฆษณาแบรนด์ในระบบหลังบ้านจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม?

•  แถบ“โฆษณาแบรนด์ ” ตรงเครื่องมือจัดการโฆษณาในระบบหลังบ้าน จะไม่มีแท็ก“Beta” อีกอีกต่อไป
• Interface ของหน้าการจัดการสตูดิโอของโฆษณาแบรนด์เวอร์ชั่นเต็มจะถูกปรับตามการอัปเดตในครั้งนี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง หน้าการจัดการสตูดิโอ ช่องการตั้งค่า ผลลัพธ์การลงโฆษณา และคู่มือคำแนะนำ ฯลฯ
• หากดีไซเนอร์เลือกตำแหน่งโฆษณาเป็น“หน้าผลลัพธ์การค้นหา” ระบบจะเพิ่มชื่อแท็ก ชื่อแบรนด์ รวมถึงชื่อสินค้า 3 รายการแรกของโฆษณาแบรนด์ของคุณให้เป็นคีย์เวิร์ดในช่องตั้งค่าคีย์เวิร์ดโดยอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเพิ่มคีย์เวิร์ดใหม่ 

 

3. การปรับระบบครั้งนี้จะส่งผลต่อข้อมูลสถิติและผลลัพธ์โฆษณาที่ผ่านมาของสตูดิโอไหม?

• การปรับระบบในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับข้อมูลสถิติและผลลัพธ์โฆษณาที่ผ่านมาของสตูดิโอ  ดีไซเนอร์ยังคงสามารถดูรายงานผลโฆษณาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาในระบบหลังบ้านได้เหมือนเดิม

• หากโฆษณาของคุณอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเวอร์ชั่นเบต้ากับเวอร์ชั่นเต็ม ระบบจะรายงานผลโฆษณาทั้ง 2 เวอร์ชั่น เช่น  

• หากดีไซเนอร์เลือกดูรายงานผลโฆษณาในช่วง 20 วันที่ผ่านมา โดย 10 วันแรกเป็นเวอร์ชั่นเบต้า และ 10 วันหลังเป็นเวอร์ชั่นเต็ม ระบบจะรวมดัชนีและสถิติโฆษณา เช่น อิมเพรสชั่น จำนวนคลิก ฯลฯ รวมถึงคำนวณค่าโฆษณาด้วยการนำ“ค่าโฆษณาต่ออิมเพรสชั่น 1,000 ครั้ง” ของ 10 วันแรก บวกกับ“ค่าโฆษณาต่อการคลิก 1 ครั้ง” ของ 10 วันหลัง แล้วแสดงในตารางรายงานผล

 

4. หากคุณเปิดใช้งานโฆษณาในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเวอร์ชั่นเบต้ากับเวอร์ชั่นเต็ม จะส่งผลต่อค่าโฆษณาของเดือนนั้นไหม? 

• หากเปิดใช้งานโฆษณาในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเวอร์ชั่นเบต้ากับเวอร์ชั่นเต็ม ระบบจะคำนวณค่าโฆษณาของเดือนนั้นตามข้อ 3. 
• ค่าโฆษณาในช่วงเวอร์ชั่นเบต้าคือ“ต่ออิมเพรสชั่น 1,000 ครั้ง” และในช่วงเวอร์ชั่นเต็มคือ“ต่อการคลิก 1 ครั้ง”  โดยระบบจะทำการคำนวณค่าใช้จ่ายโฆษณาทุกวัน และหักเงินจากบัตรเครดิตที่คุณผูกไว้โดยอัตโนมัติในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป    

 

5. ตำแหน่งโฆษณาและเครื่องมือจัดการโฆษณาจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกไหมในอนาคต?

เป้าหมายของ Pinkoi คือการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดรวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด เราจะยังคงไม่หยุดสำรวจและเก็บข้อมูลสถิติการใช้งานโฆษณาของสตูดิโอรวมถึงปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งขึย้น  เพื่อให้ดีไซเนอร์สามารถใช้เครื่องมือโฆษณาในการสร้างยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น และให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

 

หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน สามารถลสอบถามทีมงานได้ที่อีเมล [e-mail] ขอบคุณค่ะ